วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

แฟรนไชส์พิซซ่าอะโลฮ่า คืนทุนน้อย ลงทุนเร็วทันใจ



แฟรนไชส์ พิซซ่า อะโลฮ่า ลงทุนเริ่มต้น เพียง3,900บาท 
ก็สามารถเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าขนาดเล็กได้แล้ว  ซึ่งยุคนี้และเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ทำให้ใครๆหลายๆคนก็ต้องหาทางประหยัดค่าใช้จ่ายทุกอย่างทั้งนั้น รวมถึงคนที่ทำงานก็ต้องการหาอีก1อาชีพที่เป็นธุรกิจส่วนตัว ไว้เพื่อเป็นรายได้เสริม จึงต้องหาธุรกิจที่ลงทุนน้อยและตอบโจทย์ต่อตัวเองในเรื่องของกำไรในการขายและผู้บริโภคด้วย 

ด้วยความที่แฟรนไชส์พิซซ่าอะโลฮ่า นั้นลงทุนน้อยและขายพิซซ่าในราคาไม่แพง ทำให้ผู้บริโภคหรือผู้ที่ชอบกินพิซซ่าน่าจะให้ความสนใจไม่น้อย เพราะร้านพิซซ่าในห้างมีราคาค่อนข้างที่จะสูง ซึ่งอาจจะค่อนข้างที่จะสั่งซื้อมาทานได้น้อย เพราะแค่1ถาด ก็ราคาหลักหลายบาทเลยทีเดียว แต่ที่อะโลฮ่าราคาต่อถาดอยู่ที่49-69บาทเอง และก็ได้พิซซ่าที่เครื่องแน่นๆ มีหลากหลายหน้าแปลกใหม่และอร่อยมากๆชัวร์เลย




อะโลฮ่า มีอบรมการทำพิซซ่าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาขายหน้าร้านถาดละ 49-59-69 บาท ได้กำไรประมาณ 40-50% ซึ่งเป็นราคาที่สามารถขายได้ง่ายเหมาะสำหรับคนที่อยากทำเป็นอาชีพเสริม หรือเสริมเข้าไปหน้าร้านสำหรับคนที่มีธุรกิจ มีหน้าร้านอยู่แล้ว ถ้าทำเลดี อาจจะคืนทุนภายใน 3-5 วันทีเดียว น่าสนใจขนาดนี้ ใครมีฐานลูกค้าในมืออยู่แล้วอย่างร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่มต่างๆจะปล่อยให้เสียโอกาสเพิ่มบริการให้ลูกค้าและเพิ่มกำไรเข้ากระเป๋าทำไม เอาเข้ามาขายในร้านปั้มยอดขายรายได้กันดีกว่า


ถ้าใครที่สนใจลงทุนลองพิจารณาการลงทุนว่าคุณจะเลือกแบบไหน ขึ้นอยู่กับทำเล และกลุ่มลูกค้า เพราะโอกาสทางธุรกิจมีเสมอ การลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์ พิซซ่าอะโลฮ่า มี 3 แบบให้เลือก สำหรับเริ่มต้นลงทุน
โดยท่านสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนพิซซ่าอะโลฮ่าได้ดังนี้
1. แฟรนไชส์ชุดเล็ก 3,900 บาท ได้รับอุปกรณ์ในการทำพิซซ่า 8 รายการ
2. แฟรนไชส์ชุดกลาง 6,900 บาทได้รับอุปกรณ์ในการทำพิซซ่า 14 รายการ
3. แฟรนไชส์ชุดใหญ่ 35,000 บาท ได้รับเคานท์เตอร์ และอุปกรณ์ในการทำพิซซ่า 15 รายการ





มาดูสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อร่วมธุรกิจแฟรนไชส์ PIZZA ALOHA
1. แฟรนไชส์ซี่ได้รับสิทธิในการใช้ชื่อ รูปแบบ และโลโก้ อันเป็นเอกลักษณ์ของ PIZZA ALOHA
2. ฝึกอบรมขั้นตอนในการทำพิซซ่า โดยเป็นการฝึกอบรมแบบตัวต่อตัว และใช้ของจริงในการฝึกอบรม 
3. ได้รับอุปกรณ์ในการทำพิซซ่า ตามรูปแบบการลงทุนที่เลือกไว้
4. ได้รับงานป้าย/เคาท์เตอร์ ตามรูปแบบการลงทุนที่เลือกไว้


คุณสมบัติของผู้ที่จะทำธุรกิจ แฟรนไชส์ PIZZA ALOHA
1. มีความเชื่อมั่นในตัวสินค้าและแบรนด์ PIZZA ALOHA
2. มีความพร้อมและสนใจ ในการทำอาชีพค้าขาย
3. มีสถานที่ ทำเลค้าขายที่เหมาะกับการลงทุน เช่น หน้าโรงเรียน หรือในสถานศึกษา ในมหาวิทยาลัย แหล่งกวดวิชา หรือตามหมู่บ้าน หอพักต่างๆ ที่มีเด็กนักเรียน นักศึกษา วัยรุ่น ผู้ใหญ่วัยทำงานอยู่กันจำนวนมาก
4. ต้องผ่านการอบรมที่ได้มาตรฐาน จากทางแฟรนไชส์อะโลฮ่า
5. ต้องใช้วัตถุดิบหลัก ได้แก่ แป้งพิซซ่า กล่องพิซซ่าซอสพิซซ่า มายองเนส ชีส ไส้กรอก แฮม และเบคอน  จากทางแฟรนไชส์พิซซ่าอะโลฮ่าเท่านั้น

สรุปข้อดีของพิซซ่าอะโลฮ่า
ลงทุนต่ำ สามารถควบคุมต้นทุนได้ และถึงจุดคุ้มทุนเร็ว(มาก)
ไม่มีค่าธรรมเนียมรายเดือน รายปี
ไม่หักส่วนแบ่งจากยอดขาย
มีบริการจัดส่งสินค้า 
ใช้พนักงานน้อยคน คนเดียวก็ทำได้

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2562

แฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวเรือต่อปาก







🔥มีเงิน 1,900 ก็เป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือได้🔥

#ของถูกและดียังมีอยู่จริง มีลูกค้าหลายท่านซื้อแฟรนไชส์ของเราไปในราคา 1,900.- แล้วสามารถเอาไปเปิดขายได้จริงโดยที่ไม่ต้องมาเรียนทำที่สาขา**(กรณีที่คุณไม่สะดวกเดินทางมาเรียนด้วยตนเอง)**
แบรนด์ต่อปากเป็นแบรนด์น้องใหม่ที่เปิดแฟรนไชส์เพียง 2 เดือน ได้เปิดตัวไปแล้วกว่า 20 สาขาทั่วประเทศไทย! ด้วยประสบการณ์ทำร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมาเกือบ 10 ปี ตอนนี้มีทั้งหมด 3 สาขาในพัทยา😊
แฟรนไชส์ของเราดีอย่างไร?
✔️ เรากล้าการันตรีว่ารสชาติของเราอร่อยจริง มีจุดขายโดดเด่น ไม่มีที่ืี่ไหนเหมือนแน่นอน
✔️ คุณมีเงินน้อยคุณก็ลงทุนได้ ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเกือบครึ่งแสนซื้อแฟรนไชส์แพงๆ
✔️ ไม่บังคับใช้ชื่อ คุณสามารถเป็นเจ้าของร้านได้เต็ม 100% ภายใต้แบรนด์ของคุณเอง
✔️ ไม่มีค่าแรกเข้า หรือ ค่าลิขสิทธิ์ใดๆทั้งสิ้น
✔️ ให้คำปรึกษาคุณตลอดระยะเวลาการขาย จนแน่ใจว่าคุณสามารถทำได้แล้วจริงๆ
✔️ ลงทุนน้อย คืนทุนไว กำไรดี 40-50%
ฟรี! สูตรเครื่องดื่มเพิ่มยอดขายในร้านอีก 8 ชนิด
ตัดสินใจก่อน รวยก่อน
(ปีนี้ทางเรารับจำนวนจำกัดนะครับ เพื่อที่เราจะได้ดูแลทุกสาขาได้เต็มที่และทั่วถึง จนแน่ใจว่าคุณสามารถขายได้ดีจริง)​
สนใจแฟรนไชส์:
☎️ 097-070-1080 (แพท)​
Line ID: torpakfc









วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2562

แฟรนไชส์ร้านข้าวไข่เจียว บอมบี้เกิดมาเจียว







คุณบอมบี้ เจ้าของแฟรนไชส์ ร้านข้าวไข่เจียวบอมบี้เกิดมาเจียว


ทุกวันนี้ มีร้านอาหารริมทาง สตีรทฟู๊ด เกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย ในริมถนน ตลาดนัดต่างๆ ให้ลูกค้าชื่นชอบในการกิน ได้เลือกรับประทาน และอีกทางเลือกนึง สำหรับลูกค้าที่ต้องการกินข้าวแบบอิ่มๆโดยที่ไม่ต้องรอนานหรือต้องนั่งกินที่ร้านแบบภัตตาคาร หรือคนงบน้อยที่ไม่มีเงินซื้ออาหารแพงๆได้มากนัก สตีรทฟู๊ด เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ไม่มีเวลาสังสรรค์ในการกินกับกลุ่มเพื่อนๆ มักจะเป็นคนที่เร่งรีบในการที่จะต้องไปทำงานต่อ หรือลูกค้า ที่ชอบเดินไปกินไปเรื่อยๆ ที่สำคัญมีราคาถูกเหมาะกับยุคภาวะเศรษฐกิจไม่ดี 

ร้านข้าวไข่เจียว จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจและสำหรับลูกค้า ที่อยากกินข้าวในราคาที่ไม่แพง และไม่ต้องยืนรอนาน และกินอิ่มได้ ส่วนเจ้าของธุรกิจ สามารถขายได้ง่าย ได้กำไร และขายได้เยอะมากๆ

แต่ข้าวไข่เจียว มีหลายรูปแบบ มีหลายร้านมากๆ แต่ทว่าที่แตกต่างกันแต่ละร้าน คือรสชาติ ความอร่อย ความสร้างสรรค์ในเมนูไข่เจียว ที่ไม่ธรรมดา และไม่เหมือนใคร ตรงนี้คือจุดขายและเป็นแรงดึงดูดที่จะให้ลูกค้า เข้ามาชิม

แฟรนไชส์ บอมบี้ เกิดมาเจียว เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านข้าวไข่เจียว ที่ไม่ธรรมดา แปลกใหม่ และรสชาติอร่อย ตอนนี้ก็มีมากกว่า 800 สาขา ในปัจจุบัน เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ที่เติบโตเร็วมากๆ 

แฟรนไชส์ร้านข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง สำหรับท่านที่สนใจจะเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนตัว ด้วยต้นทุนที่ไม่สูง และสามารถคืนทุนได้รวดเร็วมาก ภายในเดือนเดียวเท่านั้น

สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ ราคาเริ่มต้นเพียง 9,900 บาท ได้เมนูอาหารไปให้ลูกค้าได้เลือกเกือบ 900 เมนู โปรดติดต่อ 090-6605152 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.
หรือติดต่อผ่าน LINE ID : 0906605152 และ 0802308936

















ซอสปรุงรสไข่เจียวที่อร่อยไม่เหมือนใคร







วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ทำไมคนถึงกลัวธุรกิจขายตรง



ธุรกิจขายตรงสุดแสนน่ากลัว น่ากลัวตรงไหน

พอกล่าวถึงเรื่องราวธุรกิจขายตรง หลายคนเอื่มระอากับธุรกิจนี้อย่างมาก เพราะต้องวิ่งขายสินค้า วิ่งทำ

ยอดขาย วิ่งหาดาวไลน์ โทรทำนัด เสอนแผนธุรกิจ  อบรม ประชุมสัมนา ขายธุรกิจ ปิดยอดขาย ปิดการขาย รักษายอด อื่นๆอีกมากมาย มันเป็นสิ่งที่ไม่อยากทำและไม่ชอบทำ และไม่ใช่งานถนัดด้วย

 เลยมีคนค่อนข้างกลัว บางทีก็กลัวโดนหลอกจากธุรกิจขายตรงเถื่อน ที่ไม่มีสคบ. ธุรกิจขายตรงที่เน้นหาสมาชิกเก็บค่าสมัครเเพงๆ  ธุรกิจขายตรงที่ ไร้จรรยาบรรณ บ้าความร่ำรวยแบบเพ้อฝันเเละโลภมาก สาเหตุพวกนี้ทำให้คนไม่ต้องการจะทำ  และไม่มีใครอยากทำธุรกิจประเภทนี้ งานเครือข่ายขายตรง 

แต่....... เอ๋ ทำไมถึงมีคนชอบทำมันน่าาาา  ก็เพราะธุรกิจนี้ทำให้รวยเร็วไง มีรายได้passive income รายได้ต่อเดือนหลักแสนถึงหลักล้าน ถ้ามีเครือข่ายขายตรงในทีมงานเยอะๆ  แต่ทำไมมีบางคนประสบความสำเร็จและมีบุคคลที่ล้มเหลวๆ












ทุกธรกิจมีทั้งล้มเหลว และมีทั้งประสบความสำเร็จนะ ไม่ใช่เฉพาะขายตรงอย่างเดียว

ทุกๆธุรกิจมีทั้งดีมีทั้งไม่ดี  ขายตรงก็มีทั้งดีและไม่ดีเช่นกัน

ต่อให้ธุรกิจมันดีแค่ไหน  ถ้าคนทำธุรกิจ  ไม่มีความรู้มากพอ ไม่อดทน ทำอาชีพแบบไร้จรรยาบรรณ ธุรกิจก็ประสบความล้มเหลวได้เช่นกัน


 ถ้าคุณชอบทำธุรกิจประเภทขายตรง  คุณจะต้องดูความถูกต้องตามกฏหมายธุรกิจขายตรง 
มีสคบ.รับรองไหม จดทะเบียนบริษัทหรือป่าว  สินค้ามีคุณภาพผ่านอย.ไหมสำหรับอาหารเสริม  แผนการตลาดยุติธรรไหม วิธีการทำงานนี่เป็นแบบที่ใครๆเขาเกลียดไหม  แล้วต้องถามตัวเองด้วย ว่าคุณพร้อมไหมกับการที่คุณทำงานแนวแบบนี้ คุณมีความรู้มากพอไหม 

ถ้าคุณโอเคกับทุกข้อแล้ว แล้วคุณทำธุรกิจอย่างมีสติ อย่างมีระบบ และมีจรรยบรรณ ความเป็นนักขาย ขายตรง คุณจะประสบความสำเร็จได้  ถึงเเม้ว่าคุณจะไม่ได้ได้เดือนหลักล้าน หรือ หลักแสน  คุณอาจจะได้รับเดือน 20,000 -30,000บาท ไปทุกๆเดือน จากการสั่งซื้อสินค้ากินประจำเดือน ของทีมงานคุณหรือของคนที่เป็นลูกค้ากินใช้เฉยๆในสายงานคุณ 

เพราะคุณบริการลูกค้าดี จริงใจต่อลูกค้า และทีมงานสายงานของคุณ  มันก็ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีของขายตรง 

แต่ส่วนใหญ่เเล้ว ขายตรง คนที่ทำ จะไปเพ้อฝันถึงบ้านหลังใหญ่โต รถราคาเเพงๆ  ไม่ทำขายตรงคือโง่มาก ไม่อยากรวยหรอ  ทำงานประจำแบบนี้กี่ปีรวย ยัดสินค้า โทรทำนัด เร่งปิดยอด กดดันทีมงานให้เร่งหาลูกค้า  ทำจนเกิดความโลภ ฉ้อโกงทีมงาน การทำแบบนี้แหละทำให้ขายตรงเกิดภาพลักษณ์เสียหาย เลยทำให้คนส่วนใหญ่ ไม่ประสบความสำเร็จ มันทำให้คนที่ทำขายตรงๆดี เสียหายไปด้วย 

และก็เป็น ธุรกิจขายตรงที่ไม่มีใครอยากทำในที่สุด เพราะ มันทำยาก มันต้องแนะนำคน มันต้องรักษายอด มันต้องไปเขียนแผนธุรกิจ เลยไม่มีใครต้องการทำ

แต่มันมีธุรกิจหนึ่ง  ที่ทำให้เราได้เงินแบบหลักหมื่นได้ต่อเดือน  โดยไม่มีวิธีการแบบขายตรงเลย เอาตรงๆง่ายกว่าการเล่นเเชร์อีก ง่ายกว่าการซื้อหวยอีก  มีแบบนั้นคุณสนใจไหมหล่ะ


ถ้าสนใจคลิ๊กช่องทางนี้เลย  



เคล็ดลับ สำหรับนักธุรกิจขายตรง ที่จะได้นำไปปรับปรุงเเก้ไขในการทำงานตัวเอง ให้ผู้มุ่งหวัง หรือลูกค้าของคุณได้ชอบและประทับใจในตัวคุณ




ธุรกิจขายตรงและเเชร์ลูกโซ่













วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

Forex คืออะไร Forex หรือ FX ย่อมาจากคำว่า “Foreign Exchange” ซึ่งมีความหมายว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เราสามารถสร้างรายได้จากตลาด Forex ด้วยเก็งกำไรผลต่างของสกุลเงิน ด้วยการซื้อมาในราคาที่ถูกแล้วขายไปในราคาที่แพงกว่า หากอธิบายให้เข้าใจแบบง่ายคือๆ ตลาด Forex มีความคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นไทยอยู่บ้าง สมมุติว่าหากเราต้องการซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทย เราต้องซื้อหุ้นของบริษัทใดบริษัทหนึ่งในตลาดหุ้นไทย แต่ในตลาด Forex จะไม่มีหุ้นให้ซื้อขาย แต่ในตลาด Forex จะซื้อขายในลักษณะการเก็งกำไรสกุลเงินแทน


ตัวอย่างเช่น ปี 2540 อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ดอลลาร์เท่ากับ 60 บาท ผมได้นำเงิน ดอลลาร์มาแลกจำนวนเงิน 1,000 ดอลลาร์ ผมได้เงินไทยจำนวน 60,000 บาท ปัจจุบันผมจะนำเงินที่เคยแลก มาแลกกลับเป็นเงินดอลลาร์ ปรากฎว่าในตอนนี้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ดอลลาร์เท่ากับ 30 บาท ผมนำเงินจำนวน 60,000 บาทมาแลกจะได้เงินกลับมาเป็นจำนวนเงิน 2,000 ดอลลาร์ เห็นได้ว่าการแลกเปลี่ยนเงินในครั้งนี้ทำให้ผมได้กำไรถึง 1,000 ดอลลาร์ ในตลาด Forex ก็เช่นเดียวกัน เราจะทำกำไรด้วยการซื้อมาในราคาที่ถูกแล้วขายไปในราคาที่แพงกว่า แต่ถ้าซื้อมาในราคาที่แพงแล้วขายไปในราคาที่ถูกก็จะทำให้ขาดทุน การสร้างรายได้ลักษณะนี้เราเรียกว่า “การเก็งกำไร” สกุลเงินในตลาด Forex มีมากมายหลากหลายสกุลเงิน แต่ละสกุลเงินจะมี 3 ตัวอักษร โดยอักษร 2 ตัวแรกใช้แทนชื่อประเทศ อักษรตัวที่ 3 ใช้แทนชื่อสกุลเงิน ตัวอย่าง ชื่อประเทศ Thailand ตัวย่อ TH สกุลเงินในประเทศ Bath ตัวย่อ B สกุลเงินบาทของไทยจึงมีชื่อว่า THB ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน ตลาด Forex มีอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินเปลี่ยนแปลงจากหลายอย่าง เช่น ความต้องการซื้อความต้องการขาย (อุปสงค์และอุปทาน) เศรษฐกิจของประเทศ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การก่อการร้าย การค้าระหว่างประเทศ การเมือง
การปรับของอัตราดอกเบี้ย


ใครซื้อขายในตลาด Forex บ้าง? ในตลาด Forex มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินจากสถาบัน จากผู้คนหลากหลายกลุ่ม จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น แลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อชำระสินค้าและบริการ แลกเปลี่ยนเงินตราเพื่อเก็งกำไร เป็นต้น กลุ่มที่ซื้อขายในตลาด Forex ได้แก่ ธนาคารกลางของรัฐบาล ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการลงทุน โบรกเกอร์ บริษัทโอนเงินข้ามประเทศ บุคคลทั่วไป

ศึกษาต่อได้ที่เว็บไซต์ โรงเรียนการสอนเทรดฟอเร็กส์ https://www.forex.co.th/ 




วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562

บิทคอยน์ (Bitcoin) คืออะไร สร้างรายได้ได้จริงหรือ


บิทคอยน์


 บิทคอยน์ (Bitcoin) คือ สกุลเงินสมมติที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบดิจิทัล เพื่อเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ โดยไม่ขึ้นกับสกุลเงินใด ๆ ไม่มีรูปร่างและไม่สามารถจับต้องได้เหมือนธนบัตรหรือเหรียญทั่วไป โดยบิทคอยน์มีหน่วยเงินตราเป็น BTC เหมือน ๆ กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ใช้หน่วยเงินตราเป็น USD สกุลเงินเยนของญี่ปุ่นที่ใช้ JPY หรือสกุลเงินบาทไทยที่ใช้เป็น THB นั่นเอง ซึ่งบิทคอยน์ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2552 และเริ่มถูกนำไปใช้แลกเปลี่ยนซื้อ-ขายสินค้ากันจริง ๆ ในโลกออนไลน์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
        
          ทั้งนี้ บิทคอยน์ถือว่าเป็นเงินตราอิเล็กทรอนิกส์ (Cryptocurrency) สกุลหนึ่งเท่านั้น แต่ยังมีสกลุเงินอื่น ๆ อีกมากมายที่ถูกคิดค้นขึ้นมา อาทิ สกุลเงิน Ethereum ที่ใช้ตัวย่อว่า ETH, สกุลเงิน Ripple ที่ใช้ตัวย่อว่า XRP และสกุลเงิน Litecoin ที่ใช้ตัวย่อว่า LTC แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันบิทคอยน์ยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด


บิทคอยน์ (Bitcoin) เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ?

          บิทคอยน์เกิดจากแนวคิดที่ว่ามีคนต้องการระบบเงินใหม่ที่ไม่ถูกตรวจสอบขึ้นมา จากเดิมที่มีระบบธนาคารกลางเป็นผู้ดูแล และมีหน้าที่กำหนดมาตรฐาน รวมถึงมูลค่าของเงิน ทำให้ธุรกรรมทางการเงินทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาของธนาคารกลางนั้นเอง แต่กระบวนการเหล่านี้อาจจะไม่ค่อยถูกใจบรรดาธุรกิจใต้ดิน เพราะต้องระบุตัวตน เวลาโอนเงินก็ต้องผ่านตัวกลาง ทำให้ถูกตรวจสอบได้ง่าย 

          ดังนั้น จึงมีหลาย ๆ คนพยามจะสร้างสกุลเงินใหม่ที่ไม่ผ่านระบบธนาคารกลาง และเป็นที่ยอมรับใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยมีโปรแกรมเมอร์ชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ใช้นามแฝงว่า ซาโตชิ นากาโมโต้ ได้สร้างระบบที่เรียกว่า "Blockchain" ออกมา ซึ่งเป็นระบบเพื่อป้องกันการเกิดภาวะเงินเฟ้อและเสื่อมค่าลงอย่างรวดเร็วของสกุลเงินดิจิทัล จากการปั๊มเงินออกมาเรื่อย ๆ ได้ตามใจชอบ โดยนำระบบการทำงานของอัลกอริทึมมาใช้ แล้วกำหนดปริมาณเงินในระบบไว้ไม่ให้เกิน 21 ล้านหน่วย ทำให้บิทคอยน์เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากมีระบบป้องกันเงินเฟ้อนั่นเอง 



บิทคอยน์ (Bitcoin) ขุดยังไง เล่นแล้ว รวยจริงหรือ ?
 
          หลังจากที่บิทคอยน์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น จึงมีหลายคนเริ่มเห็นโอกาสในการทำกำไร ซึ่งก็มีคนที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยกับบิทคอยน์ไปไม่น้อยเลยทีเดียว โดยการลงทุนในบิทคอยน์นั้น สามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีหลัก ๆ ดังนี้

          1. การขุด (Mining)

          อย่างที่บอกไปข้างต้น คือ บิทคอยน์ถูกดูแลภายใต้ระบบ Blockchain ที่ทำงานโดยอัลกอริทึม "การขุดคอยน์" อธิบายง่าย ๆ ก็คล้าย ๆ กับการที่เราเข้าไปขุดทองในเหมือง แต่แค่เปลี่ยนรูปแบบมาทำในระบบคอมพิวเตอร์แทน โดยจะต้องนำคอมพิวเตอร์ของเราไปเป็นเซิร์ฟเวอร์ให้ระบบบิทคอยน์ใช้ในการเก็บธุรกรรมต่าง ๆ  จึงจะได้รับค่าตอบแทนคือเงินบิทคอยน์ แต่การจะได้ค่าตอบแทนนั้นจะต้องแก้ไขสมการทางคณิตศาสตร์ให้ได้ ซึ่งต้องแข่งกับคนอื่น ถ้าทำสำเร็จเราก็จะเป็นเจ้าของบิทคอยน์ที่เกิดขึ้นมาใหม่จากการขุดนั่นเอง 

          สำหรับความยากง่ายของการขุด ขึ้นอยู่กับจำนวนบิทคอยน์ที่เหลืออยู่ในระบบที่ถูกกำหนดสูงสุดไว้ที่ 21 ล้านหน่วย เพราะฉะนั้นยิ่งจำนวนบิทคอยน์เหลือน้อย การแก้สมการก็ยิ่งยากมากขึ้น รวมถึงความแรงของการประมวลผลคอมพิวเตอร์เราด้วยที่ต้องมากขึ้นตามความยากของการขุด ทำให้เราเห็นข่าวเรื่องที่คนหันมาซื้อการ์ดจอแรง ๆ เพื่อมาแข่งกันขุดบิทคอยน์นั่นเอง คอมพิวเตอร์ของใครแรงกว่าก็จะมีโอกาสแก้สมการได้เร็วกว่า ส่วนจำนวนเงินที่ได้จากการขุดถูกกำหนดไว้ชัดเจน ซึ่งช่วงแรกจะได้ครั้งละ 50 BTC โดยจำนวนเงินที่ได้จะค่อย ๆ ลดลงทุก 4 ปี ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ครั้งละ 25 BTC เท่านั้น

          ขณะที่ปัจจุบันจำนวนบิทคอยน์ที่เหลืออยู่ในระบบมีไม่ถึง 5 ล้าน BTC แล้ว แต่จำนวนคนที่เข้ามาขุดกลับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น โอกาสรวยจากการขุดหาบิทคอยน์จึงยากมากขึ้น เนื่องจากต้องลงทุนซื้อการ์ดจอราคาแพง   




 2. เทรดด้วยสกุลเงินอื่น

          หากใครที่ไม่มีคอมพิวเตอร์แรง ๆ ไปขุดบิทคอยน์ เราสามารถนำเงินสกุลอื่น ๆ ที่ได้รับการยอมรับไปแลกเพื่อเก็งกำไรมูลค่าของบิทคอยน์ได้จากนักขุด โดยมีร้านรับแลกแบบออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย ที่ทำหน้าที่เสมือนธนาคาร ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนจะขึ้นกับกลไกลการตลาดกำหนด คือ ช่วงเวลาไหนที่ได้รับความนิยมสูง มูลค่าของบิทคอยน์ก็จะสูงขึ้นตาม 

1 บิทคอยน์ เท่ากับกี่บาท ?


          มูลค่าของบิทคอยน์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเหมือนสกุลเงินอื่น ๆ ตามกลไกตลาด หรือที่เราเรียกว่าหลัก Demand Supply คือช่วงไหนที่ความต้องการบิทคอยน์ มีมากกว่าปริมาณบิทคอยน์ที่มีในระบบ ก็จะส่งผลให้มูลค่าบิทคอยน์เพิ่มขึ้น เช่น ในช่วงที่มัลแวร์เรียกค่าไถ่ด้วยเงินบิทคอยน์ กลับกันหากบิทคอยน์ในระบบมีมากเกินความต้องก็จะทำให้มูลค่าลดลง 

          โดยเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2560 บิทคอยน์ได้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ คือ มีมูลค่าทะลุไปถึง 18,900 USD ต่อ 1 BTC หรือกว่า 600,000 บาทเลยทีเดียว จากการเข้ามาเก็งกำไรของนักลงทุน แม้จะมีกระแสคำเตือนต่าง ๆ จากนักวิเคราะห์ว่าอาจเกิด "ภาวะฟองสบู่" กับตลาดบิทคอยน์ ทั้งนี้ ปัจจุบัน (ณ เดือนสิงหาคม 2561) 1 BTC มีค่าเท่ากับ 6,466 USD หรือคิดเป็นเงินประมาณ 207,000 บาท ซึ่งเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องจากช่วงปลายปี 2560 

          ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนแรกของบิทคอยน์ ถูกกำหนดขึ้นในเดือนตุลาคม 2552 ไว้ที่ 1 BTC เท่ากับ 0.000764 USD กระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 2553 บิทคอยน์สามารถเพิ่มมูลค่าอย่างรวดเร็วเป็น 1 BTC เท่ากับ 0.50 USD และค่อย ๆ มีมูลค่าขึ้นเป็นหลักหมื่นหลักพันเหรียญสหรัฐเหมือนในปัจจุบัน



อย่างไรก็ดี บิทคอยน์ ถือเป็นสกุลเงินที่มีความผันผวนเป็นอย่างมาก โดยเฉลี่ยแล้วในหนึ่งวันมูลค่าของบิทคอยน์จะเปลี่ยนแปลงประมาณ 5% ซึ่งนับว่าสูงมากเมื่อเทียบกับเงินสกุลปกติหรือการลงทุนในหุ้นที่เฉลี่ยต่อวันจะเปลี่ยนแปลงไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น ผู้ที่สนใจเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไร ควรจะต้องศึกษาข้อมูลและหาความรู้เพิ่มเติมอย่างละเอียด ไม่เช่นนั้นอาจจะหมดตัวได้ง่าย ๆ 

บิทคอยน์ (Bitcoin) ผิดกฎหมายไหม เป็นที่ยอมรับหรือยัง ?

          ด้วยความนิยมที่สูงขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลในประเทศไทย ทำให้เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ก็ได้ออกมาให้ความชัดเจนแล้วว่า สามารถซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยได้อย่างถูกกฎหมาย ภายใต้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 โดยต้องผ่าน 7 สกุลเงินดิจิทัลที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งบิทคอยน์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น  

           รู้จัก 7 สกุลเงินดิจิทัลที่ "ก.ล.ต." อนุญาตให้ซื้อ-ขายได้
          อย่างไรก็ตาม ธนาคาร สถาบันการเงินต่าง ๆ ที่ต้องการระดมทุนและให้บริการแลกเปลี่ยนบิทคอยน์ จะต้องยื่นขออนุญาตจากทาง ก.ล.ต. ก่อน ซึ่งก็มีหลายบริษัทให้ความสนใจ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีรายใดที่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. ทำให้ยังไม่สามารถเปิดซื้อ-ขายแบบถูกกฎหมายได้ จะมีก็แต่การเข้าไปศึกษาเพื่อนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการเงินเท่านั้น เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ที่ร่วมกับบริษัทในประเทศญี่ปุ่น นำเทคโนโลยี Blockchain มาให้บริการโอนเงินข้ามประเทศสำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม
          ขณะเดียวกันปัจจุบันมีหลายประเทศที่ยอมรับบิทคอยน์อย่างถูกกฎหมาย อาทิ ประเทศในทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา แคนาดา และญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่ยอมรับการชำระสินค้าเป็นเงินสกุลบิทคอยน์ เช่น Dell, Expedia, Greenpeace และ Wikipedia 



บิทคอยน์ (Bitcoin) โอกาสหรือความเสี่ยง ?
          สำหรับการใช้บิทคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการนำมาซึ่งความสะดวกในหลายด้าน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องพกเงินสด อยากโอนให้ใครบนโลกนี้ก็ทำได้ง่าย ๆ ไม่ต่างจากการส่งอีเมล และนับวันสกุลเงินดิจิทัลก็ค่อย ๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น
        
          แต่ความเสี่ยงของเงินสกุลนี้ก็ยังมีอยู่มากเช่นกัน ได้แก่ ค่าเงินที่มีความผันผวนสูง เป็นช่องทางการฟอกเงินอีกหนึ่งรูปแบบ รวมทั้งยังเป็นช่องทางให้เกิดการโจรกรรมทางอินเทอร์เน็ต เพราะไม่มีการระบุข้อมูลของผู้ใช้ การจับตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษจึงทำได้ยากนั่นเอง ขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จากการที่บิทคอยน์ไม่มีตัวตนจริง จึงมีโอกาสสูญหายได้หากถูกโจมตีจากไวรัสที่ต้องการเข้ามาป่วนระบบ รวมถึงการที่ธนาคารกลางของประเทศหลายประเทศยังไม่สามารถควบคุมปริมาณเงินในระบบให้มีเสถียรภาพได้ด้วย
     
          ต้องบอกว่าปัจจุบันบิทคอยน์ไม่ใช่เรื่องไกลตัวของเราอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากชีวิตประจำวันของทุกคนต้องข้องเกี่ยวกับระบบอินเทอร์เน็ตแน่นอน และบิทคอยน์คงจะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ กับระบบการเงินของโลกในอนาคต ซึ่งการเรียนรู้ทำความเข้าใจเรื่องนี้เอาไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะใครจะไปรู้อนาคตข้างหน้า "บิทคอยน์" อาจกลายเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายก็ได้
ข้อมูลของปี2561

ที่มาข้อมูลจากเว็บไซต์ กระปุกดอทคอม



วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

5เทคนิคสร้างเเรงบันดาลใจในการทำธุรกิจ





แรงบันดาลใจมีอยู่ทุกที่ ขึ้นอยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นมันได้มากน้อยแค่ไหน การทำธุรกิจ มีความรู้อย่างเดียวคงไม่พอ ต้องใช้ใจด้วย การสร้างแรงบันดาลใจทำให้เราอยากพัฒนาตนเอง พัฒนาธุรกิจให้ดีขึ้น ประสบความสำเร็จ และต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ได้ ด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังนี้
1. ทำธุรกิจ เป้าหมายต้องชัดเจน
การทำธุรกิจ การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ ที่จะนำทางเราไปสู่ความสำเร็จ เป้าหมายจะท้าทายให้เราลุกขึ้นมา และรู้ว่าควรทำอะไร ทำเพื่ออะไร ทำแล้วได้อะไร ...2. รู้ข้อดี กระตุ้นแรงจูงใจเมื่อรู้แล้วว่าอยากทำอะไร ก็ลงมือค้นหาข้อมูลธุรกิจนั้นอย่างเต็มที่ มองหาว่าธุรกิจนี้ดีอย่างไร เพื่อกระตุ้นความอยาก และขจัดความลังเลออกไป ทำให้เราสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้เร็วขึ้น3. อ่านให้มากการอ่านหนังสือ จะทำให้คุณเข้าใจธุรกิจได้อย่างชัดเจนขึ้น สามารถมองเห็นแนวทาง มุมมองความคิดเห็นดีๆ จากหนังสือ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นความคิด เกิดแรงบันดาลใจ และสามารถนำแนวคิดนำไปปฏิบัติจริงได้ด้วย4. พบปะผู้รู้ แค่ความรู้อย่างเดียวคงไม่พอ การรับรู้เรื่องราว ได้พูดคุยกับผู้ที่มีประสบการณ์ หรือผู้ที่ประสบความสำเร็จนั้น คุณจะได้แรงบันดาลใจ แนวคิด มุมมองในการเริ่มต้นทำธุรกิจอย่างชาญฉลาด โดยการเรียนรู้จากปัญหา ความพยายาม ความตั้งใจ ในการทำธุรกิจของเขานั้น ว่าทำอย่างไรกว่าจะประสบความสำเร็จได้ เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความเชื่อมั่นว่า เมื่อเขาทำได้ เราก็ทำได้5. เปิดรับสิ่งใหม่การติดอยู่กับกรอบความคิดเดิมๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับการทำธุรกิจ ควรเปิดใจให้กว้างเพื่อเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ออกไปสำรวจหรือพบปะกับผู้คนใหม่ๆ ไปยังสถานที่ที่ไม่เคยไป เพื่อเป็นไอเดียใหม่ๆ ในการพัฒนาธุรกิจให้โดดเด่น และเป็นที่ต้องการของตลาด



แฟรนไชส์พิซซ่าอะโลฮ่า คืนทุนน้อย ลงทุนเร็วทันใจ

แฟรนไชส์ พิซซ่า อะโลฮ่า ลงทุนเริ่มต้น เพียง3,900บาท  ก็สามารถเป็นเจ้าของร้านพิซซ่าขนาดเล็กได้แล้ว  ซึ่งยุคนี้และเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีนัก ท...